เจาะลึกรอยร้าวผนัง พร้อมวิธีแก้ไขต่อเติมบ้านยังไงให้ปลอดภัย

ใครที่อยู่บ้านมานานหรือเพิ่งต่อเติมบ้านใหม่อาจเคยสังเกตเห็นรอยร้าวบนผนังเล็กๆ ที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นตามมุมห้อง ขอบประตู หรือแนวต่อเติม แล้วสงสัยว่าแบบนี้ “ร้ายแรงไหม?” “ควรซ่อมหรือปล่อยไว้?” บทความนี้ Master Home จะพาไปเจาะลึกที่มาของรอยร้าว พร้อมแนะนำการเลือกใช้ ปูนซ่อมรอยแตกร้าวที่เหมาะสม รวมถึงวิธีต่อเติมอย่างถูกวิธี เพื่อให้บ้านของคุณมั่นคง ปลอดภัย และไม่มีรอยร้าวมากวนใจในอนาคต

สารบัญเนื้อหา

รอยร้าวผนังคืออะไร? เข้าใจก่อนลงมือซ่อมหรือเริ่มต่อเติมบ้าน

รอยร้าวผนัง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของวัสดุหรือแรงกระทำที่มีผลต่อโครงสร้าง เช่น การทรุดตัวของดิน การขยายตัวจากความร้อน หรือแม้แต่แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว โดยรอยร้าวที่ดูเหมือนไม่มีอะไร อาจลุกลามจนส่งผลต่อความมั่นคงของตัวบ้านหากปล่อยไว้นาน และหลายๆ คนในที่นี้อาจคิดว่ารอยร้าวเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ที่เกิดขึ้นตามอายุของบ้าน แต่ความจริงแล้วรอยร้าวบางชนิดอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในบ้านที่มีการต่อเติมบ้านเพิ่มเติมในภายหลัง เพราะหากไม่ได้วางแผนอย่างถูกต้องหรือไม่มีวิศวกรควบคุมงานอาจทำให้ผนังเกิดแรงดันผิดสมดุลจนเกิดรอยร้าวอื่นๆ เพิ่มอีกได้

รู้จักประเภทของรอยร้าวที่พบบ่อยในบ้านที่มีการต่อเติม

รอยร้าวในผนังและโครงสร้างอาคารสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะของการเกิดรอยร้าวและสาเหตุที่เกี่ยวข้อง โดยแต่ละประเภทของรอยร้าวมีความสัมพันธ์กับการทรุดตัวของโครงสร้างหรือแรงภายนอกที่กระทำต่ออาคาร การทำความเข้าใจรอยร้าวในแต่ละประเภทจะช่วยให้การซ่อมแซมมีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในกรณีที่มีการต่อเติมบ้านที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรงทั้งในด้านโครงสร้างและการใช้งาน

1. รอยร้าวแนวดิ่ง (Vertical Cracks)

รอยร้าวแนวดิ่งมักเกิดขึ้นจากการทรุดตัวของเสาเข็มหรือแรงดึงของโครงสร้าง (structural tension) ที่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของโครงสร้างในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นผลจากการที่เสาเข็มหรือฐานรากไม่สามารถรองรับน้ำหนักหรือแรงกดทับได้อย่างเหมาะสม เมื่อเกิดการทรุดตัวนี้อาจทำให้เกิดรอยร้าวที่มักจะต้องซ่อมแซมด้วยปูนซ่อมรอยแตกร้าวที่เหมาะสม ควรตรวจสอบจุดทรุดตัว (settlement points) และการเสริมเสาเข็มหรือฐานรากใหม่เป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะเมื่อมีการต่อเติมบ้านหรือการขยายพื้นที่ในส่วนต่างๆ ของบ้าน

2. รอยร้าวแนวนอน (Horizontal Cracks)

รอยร้าวแนวนอนพบได้บ่อยในผนังที่รับแรงดันจากน้ำหรือดิน (pressure from water or soil) เช่น ผนังชั้นใต้ดิน หรือผนังห้องน้ำ การรับแรงดันจากดินหรือการอุ้มน้ำใต้ดินอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของโครงสร้างด้านข้าง ซึ่งส่งผลให้เกิดรอยร้าวแนวนอน ในกรณีที่มีการต่อเติมหลังคาหรือการขยายพื้นที่ ควรมีการตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของผนังที่รับแรงดันเหล่านี้ด้วยการใช้ปูนซ่อมรอยแตกร้าวที่สามารถรับแรงดันได้

3. รอยร้าวเฉียง (Diagonal Cracks)

รอยร้าวเฉียงมักเกิดจากแรงบิด (torsional forces) ที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง เช่น การเกิดแผ่นดินไหว (earthquake) หรือการต่อเติมในส่วนที่ไม่ได้รับการเสริมโครงสร้างอย่างเพียงพอ เมื่อมีการติดตั้งโครงสร้างเหล็ก (steel framework) หรือการขยายพื้นที่ (extension) โดยไม่ได้คำนึงถึงการกระจายแรง ก็อาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่หรือบิดเบี้ยวของโครงสร้างในทิศทางที่ไม่ตรงกัน ซึ่งทำให้เกิดรอยร้าวในลักษณะเฉียง การแก้ไขสามารถทำได้โดยการเสริมโครงสร้างให้แข็งแรงและซ่อมแซมด้วยปูนซ่อมรอยแตกร้าวที่มีความยืดหยุ่น

4. รอยร้าวที่วงกบประตูและหน้าต่าง (Cracks around Door and Window Frames)

รอยร้าวที่วงกบประตูและหน้าต่างมักเกิดจากการขยายตัวและหดตัวของวัสดุ (thermal expansion and contraction) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น ซึ่งส่งผลให้วัสดุที่ใช้ในการติดตั้งวงกบ เช่น ไม้หรือโลหะขยายตัวหรือหดตัวตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้วงกบประตูหรือหน้าต่างดึงหรือผลักกับผนัง เกิดเป็นรอยร้าวในส่วนที่ติดตั้งวงกบและเมื่อทำการต่อเติมบ้านโดยเฉพาะในการติดตั้งวงกบใหม่ ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นหรือคงตัวที่ทนทานต่อการขยายตัวหรือหดตัว

หลังต่อเติมบ้านเจอรอยร้าว? วิธีรับมือและซ่อมผนังอย่างถูกวิธี

การต่อเติมบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่จากโครงการ บ้านสร้างเอง หรือบ้านที่ผ่านการรีโนเวทแล้วก็ตาม มักมีโอกาสเจอปัญหา “รอยร้าวผนัง” ที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นหลังงานก่อสร้างเสร็จไม่นาน บางรายอาจพบตั้งแต่ช่วงก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับเจ้าของบ้านได้ไม่น้อย

สิ่งที่ควรทำทันที เมื่อบ้านที่ต่อเติมเกิดรอยร้าว

  1. หยุดการใช้งานพื้นที่บริเวณนั้นทันที (ถ้าเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่หรือร้าวที่โครงสร้างหลัก) เพื่อความปลอดภัย ควรหยุดใช้บริเวณที่เกิดรอยร้าวและตรวจสอบว่าเป็นรอยร้าวผิว หรือร้าวโครงสร้าง

  2. ถ่ายภาพเก็บหลักฐาน พร้อมวัดความยาวและความลึกของรอยร้าว ใช้ภาพถ่ายเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงของรอยร้าวในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้วิศวกรประเมินได้แม่นยำขึ้น

  3. ติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือผู้รับเหมาก่อสร้างต่อเติมบ้านเจ้าเดิม แต่หากเป็นบ้านจากโครงการ ควรติดต่อทีมงานที่รับผิดชอบเพื่อส่งช่างมาตรวจสอบ ส่วนในกรณีบ้านที่เจ้าของบ้านจ้างต่อเติมเอง ควรให้วิศวกรหรือช่างที่เชื่อถือได้เข้ามาประเมินก่อนลงมือแก้ไข

  4. อย่าเพิ่งทาสีหรือซ่อมรอยร้าวเองโดยไม่เข้าใจสาเหตุ เพราะการทาสีทับหรืออุดรอยร้าวแบบผิดวิธีอาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ใต้ผิว และลุกลามรุนแรงขึ้นในอนาคต

ซ่อมรอยแตกร้าวผนังหลังต่อเติมบ้าน ด้วยปูนคุณภาพจาก Master Home

เมื่อรู้แน่ชัดว่ารอยร้าวไม่กระทบกับโครงสร้างบ้านหรือฐานราก การซ่อมแซมสามารถเริ่มต้นได้ด้วยวิธีมาตรฐานดังนี้

ขั้นตอนการซ่อมรอยแตกร้าวผนังอย่างถูกวิธี : 

  1. ทำความสะอาดบริเวณรอยร้าว ใช้แปรงเหล็กขัดเอาฝุ่น คราบเก่า และวัสดุหลุดล่อนออก เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับวัสดุซ่อม
  2. เลือกใช้ “ปูนซ่อมรอยแตก” ที่เหมาะกับรอยแตกร้าว
  • รอยร้าวเล็ก: ใช้ปูนชนิดบางที่สามารถอุดรอยได้เรียบเนียน
  • รอยร้าวใหญ่: เลือกปูนสูตรเสริมโครงสร้าง หรือมีสารยืดหยุ่นสูง รองรับการเคลื่อนไหวของผนังได้ดี
  1. อุดรอยร้าวด้วยเกรียงปูนอย่างประณีต กดปูนให้แน่น ไม่ให้เกิดโพรงภายใน และเกลี่ยให้เรียบเพื่อเตรียมพื้นผิวสำหรับงานตกแต่งต่อไป
  2. ปล่อยให้แห้งรอให้ปูนเซ็ตตัวเต็มที่ก่อนตกแต่งพื้นผิวเพิ่มเติม (เช่น ทาสี)  จะช่วยให้สีไม่หลุดร่อนในอนาคต

ทำไมควรเลือก Master Home เมื่อซ่อมรอยร้าวหรือวางแผนต่อเติมบ้าน

Master Home คือผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมแซมและ ต่อเติมบ้าน แบบครบวงจร เราเข้าใจดีว่ารอยร้าวผนัง ไม่ใช่แค่เรื่องสวยงาม แต่คือสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม และเราก็เลือกใช้เฉพาะปูนซ่อมรอยแตกร้าว คุณภาพสูงที่ผ่านการทดสอบจริง พร้อมทีมช่างมืออาชีพ ที่พร้อมช่วยคุณแก้ปัญหาได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และยั่งยืน

“เมื่อเกิดรอยร้าวหลังการต่อเติม…อย่าชะล่าใจ…เพราะบางรอยอาจสะท้อนถึงปัญหาใหญ่ได้ การซ่อมรอยแตกร้าวให้ถูกวิธีด้วยวัสดุที่เหมาะสม โดยเฉพาะปูนซ่อมรอยแตกที่มีคุณภาพ จะช่วยให้บ้านกลับมาแข็งแรงดังเดิม และอย่าลืมปรึกษา Master Home เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

บริษัท มาสเตอร์ โฮม (เอ็มเอช) จํากัด
MASTER HOME (MH) CO., LTD.

ที่ตั้ง : 88/8 โครงการสําเพ็ง 2 ถนนกัลปพฤกษ์
แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160

โทร. : 098-389-5888

อีเมล์ : masterhomethailand@gmail.com